นี่คือตัวอย่างคำโอดครวญจากคนไข้หลายคน ที่ส่งข้อความมาปรึกษากันทาง Social network

เพราะด้วยสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิด19 ที่ทำให้ทั้งโลกรู้สึกตื่นตระหนกหวาดกลัว และเป็นเหตุให้มีมาตรการระดับนานาชาติให้เราไปไหน ก็ต้องช่วยป้องกันตัวเองใส่หน้ากากอนามัยตลอด ถึงแม้จะเกิดสิวก็ต้องยอมทุกข์ทรมานใจเพราะไม่อยากติดโควิด19 และแถมตอนนี้หน่วยงานเอกชน รวมไปถึงสถานพยาบาลบางส่วนก็ต้องปิดพักชั่วคราว เพื่อเตรียมรองรับสถานการณ์โรคติดเชื้อนี้ ดังนั้น เมื่อเกิดสิวแล้ว ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร หาหมอที่ไหนก็ไม่ได้ ที่ทำได้คือหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเท่านั้น

        ค่ะ ถ้าเช่นนั้น ก่อนอื่นเรามาเข้าใจกันก่อน ว่ากลไกการเกิดสิว ที่เราบ่นกันมาข้างต้นนั้น มาอย่างไร เราจะได้เข้าใจต่อว่า แล้วจะทำอย่างไรที่จะดูแลรักษาสิวด้วยตัวเองกันไปก่อน ในช่วงภาวะเช่นนี้ค่ะ

       สิวเป็นรอยโรคที่เกิดขึ้น พบได้บ่อยบนอวัยวะผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าหล่อๆสวยๆของพวกเรา ที่หนาแน่นไปด้วยต่อมไขมันที่ทำหน้าที่ผลิตไขมันขึ้นมาค่ะ ซึ่งถ้าแบ่งง่ายๆคือ สิวไม่อักเสบ ซึ่งจะมีแบบหัวปิดหัวขาวๆ กับหัวเปิดหัวดำๆ ซึ่งก็คือเป็นตุ่มนูนขึ้นมาเฉยๆ กับอีกแบบคือ สิวอักเสบ ซึ่งมีลักษณะปวดบวมแดงร้อน มีหนองหรือเป็นไตๆถุงๆ

     การเกิดสิวนั้น ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวค่ะ บางครั้งก็เป็นสิวไม่อักเสบก่อน ลูบไปลูบมา ยิ่งใส่หน้ากากอนามัยหรือแม้กระทั่งหน้ากากผ้าก็ตาม ถูไปถูมา ก็เหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบได้ หรือบางครั้งเป็นปุ๊บแป๊บๆไม่ทันสังเกตก็เป็นสิวอักเสบเลย

         แต่ไม่ว่าจะเป็นสิวแบบไหนนั้น แน่นอนว่าการไปรักษาที่ต้นเหตุเป็นสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ เช่น ถ้าไม่นับวัยรุ่นที่ฮอร์โมนผันผวนทำให้สร้างไขมันมากเกินควรบนใบหน้า หรือพันธุกรรม หรือภาวะประจำเดือนที่เป็นปัจจัยซึ่งจัดการอะไรไม่ได้มากแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เกิดสิวได้ค่ะ เช่น การแต่งหน้า เครื่องสำอางก็ทำให้อุดตันรูขุมขนเกิดสิวได้ อาหารกลุ่มอาหารหวาน ผลิตภัณฑ์นมที่มีการพบว่ากระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากเกินควร ความเครียดในจิตใจ สิ่งแวดล้อมที่ชื้นแฉะเหงื่อออกมาก การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง เป็นต้น

          (พิจารณาดีๆแล้ว จะเห็นได้ว่า สถานการณ์โควิด19 ตอนนี้ สามารถเหนี่ยวนำให้เราเป็นสิวได้ง่ายๆเลยนะคะเนี่ย ไม่ว่าจะเป็นจิตใจที่เครียด กังวลห่อเหี่ยว ไปจนถึงการใส่หน้ากากอนามัย ที่อับชื้นเสียดสีใบหน้าอีก)

          ค่ะ แต่พวกเราส่วนใหญ่พอสิวขึ้นกันมาแล้ว เราจะทุกข์ร้อนอยากให้สิวรีบๆยุบลงไปก่อน แล้วจะทำอย่างไรกันดี ทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ปลอดภัย และเห็นผลเร็ว คือ เจลแต้มสิวค่ะ

          เจลแต้มสิว มีให้เลือกหลากหลายในท้องตลาด แต่ถ้าจะให้ดีกว่า เราต้องดูว่า เจลแต้มสิวที่ดีนั้น ต้องมีคุณสมบัติที่ช่วยตั้งแต่ กระบวนการเริ่มต้นของสิว นั่นคือความมันค่ะ อย่างแรกเลยที่ควรให้ความสำคัญคือลดความมัน ยับยั้งการทำงานของเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง แต่ถ้าเริ่มมีการอุดตันของสิวแล้ว การเข้าไปช่วยลดการอุดตันได้ยิ่งดีค่ะ เพื่อลดโอกาสไม่ให้สิวที่อุดตันเกิดการอักเสบ จนกลายมาเป็นทิ้งรอยดำรอยแดงไว้ ค่ะ แต่ทั้งนี้หากสิวทิ้งรอยเอาไว้ให้เราทุกข์ใจ ลองหาเจลลดรอยสิวมาทาควบคู่ หรือเลือกใช้เจลแต้มสิวที่สามารถลดโอกาสการเกิดรอยสิวได้ รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการซ่อมสร้างผิวที่มีประสิทธิภาพได้ ก็เยี่ยมไปเลยค่ะ

      แล้วจะรู้ได้อย่างไร ว่าเจลแต้มสิวแบบไหนที่มีคุณสมบัติแบบนี้ ก็ต้องดูที่ส่วนผสมค่ะ เช่น สารกลุ่ม Acnacidol BG ที่มีส่วนช่วยในการลดการหลั่งน้ำมันในรูขุมขน ทำให้ผิวเรามีน้ำมันส่วนเกินน้อยลง ร่วมกับการทำงานของสารกลุ่ม Salicylic Acid จะมีคุณสมบัติช่วยลดความมันส่วนเกิน และกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ซึ่งในเรื่องของรอยดำรอยแดงนั้น สารกลุ่ม AHA และ BHA จะมีส่วนช่วยให้รอยจางลงได้เร็วขึ้น รวมถึง สารสกัดจากพืช อาทิ สารสกัด Dragon’s Blood และ Allium Cepa ซึ่ง ก็มีงานวิจัยยืนยันว่าช่วยสมานผิวลดการเกิดแผลเป็นที่ผิว เป็นต้นค่ะ

             ขอให้ตระหนักว่า ร่างกายกับจิตใจสัมพันธ์กันเสมอค่ะ ถึงแม้สถานการณ์ติดเชื้อจะเป็นอย่างไร เราก็ต้องสู้ไปด้วยกันนะคะ อย่างน้อย ป้องกันไว้ก่อน พยายามสลับหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงอากาศร้อนชื้นแฉะ ที่จะทำให้เกิดสิว แต่ถ้าสิวเจ้ากรรมมันบังเอญเกิดจริงๆ เจลแต้มสิวที่มีคุณสมบัติครบถ้วนดังที่กล่าวไป ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ปลอดภัยและใช้ได้สำหรับพวกเราค่ะ

​

​

​