24 items found for ""
- Acne Gel | PEURRi
เข้าใจ ทุกสาเหตุ เคลียร์ทุกสิว ดูแล ทุกกระบวนการเกิดสิว นวัตกรรมเอกสิทธิ์เฉพาะจาก PEURRi การเสริมประสิทธิภาพการดูแลผิวที่มีปัญหาสิวให้ดียิ่งขึ้น เป็นการเสริมฤทธิ์ การทำงานระหว่าง Acnacidol BG 2% และ Salicylic Acid 2% เพื่อช่วยดูแลปัญหาสิวตั้งแต่ระยะเริ่มต้น สิวยุบจริง ใน 24 ชั่วโมง* *ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ดูแล ทุกกระบวนการ สิว สิวกำลังจะมา ดูแลที่สาเหตุ ตรงเข้าควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้า อันเป็นสาเหตุของการเกิดสิวทุกชนิด ทำให้สิวใหม่ทุกชนิดบนใบหน้าลดลง และช่วยสกัดสิวที่กำลังจะเกิดขึ้นให้ทุเลาลง สิวมาแล้ว ดูแลให้สิวยุบตัวลง เข้าลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เชื้อ p.acne สาเหตุของสิว พร้อมการผลัดเซลล์ผิวสลายการอุดตันของไขมันในรูขุมขน สิวกำลังจะไป ลดโอกาสการทิ้งรอยสิว ด้วย Dragon’s Blood Extract ทำงานร่วมกันกับ Allium Cepa Extract และ AHA & BHA ธรรมชาติจาก Snail Secretion Filtrate เทคแคร์ ผิวอย่างเข้าใจ ด้วยสารสกัดธรรมชาติที่ อ่อนโยน Acnacidol BG 2% ควบคุมความมันบนใบหน้า และลดความมันวาว ช่วยลดโอกาสการอุดตัน และลดโอกาสการสะสมของเชื้อ P.Acne Salicylic Acid 2% มีส่วนช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิว และช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น Tea Tree Oil ลดโอกาสการสะสมของแบคทีเรีย สาเหตุของสิว ลดโอกาสการเกิดสิวเสี้ยน และการอุดตันของสิว Mangosteen Extract ลดโอกาสเกิดการเจริญเติบโต ของเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุของสิว ปรับสภาพผิวให้ดูสุขภาพดี Allium Cepa Extract ปกป้องผิวจากการทำลายจากอนุมูลอิสระ และลดเลือนจุดด่างดำ Dragon’s Blood Extract มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างคอลลาเจน และช่วยลดเลือนรอยแผลเป็น จุดด่างดำ Snail Secretion Filtrate ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ลดเลือนรอยแผลเป็น จุดด่างดำ เสริมสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน พร้อมมีส่วนช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน วิธีใช้ : แต้มเจลแต้มสิว PEURRi บริเวณที่เป็นสิวเป็นประจำต่อเนื่องทุกวัน เช้า - เย็น R E V I E W
- หน้ากากอนามัยยุค New Normal กับปัญหาสิว | PEURRi
หน้ากากอนามัยยุค New Normal กับ ปัญหาสิว คงหลีกเลี่ยงไม่ได้กับการใส่หน้ากากอนามัยในยุค New normal แบบนี้ หรือพูดกันง่ายๆก็คือ หน้ากากอนามัยกลายเป็นปัจจัยที่ 6 นอกเหนือไปจากปัจจัยสี่ และมือถือแล้วก็ว่าได้ ออกไปข้างนอกบ้านถ้าไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยจะรู้สึกเหมือนเราทำอะไรผิด เพราะมีคนมองเราตลอดเวลา แต่ การใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หรือเป็นระยะเวลานานติดต่อกัน ก็อาจทำให้เกิดสิวบริเวณคาง หรือรอบๆที่ใส่หน้ากากอนามัยได้ ซึ่งสร้างความรำคาญใจให้กับคุณได้ไม่น้อย ส่วนมากสิวที่คาง มักเกิดจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุลของร่างกาย โดยเฉพาะคุณผู้หญิงหากใกล้มีรอบประจำเดือนก็มักพบสิวที่คางได้บ่อย แต่หากมีปัจจัยอื่น เช่นหน้ากากอนามัยเพิ่มเข้ามาแล้ว ฮอร์โมนอาจไม่ใช่สาเหตุเพียงอย่างเดียว สาเหตุของการเกิดสิวบริเวณพื้นที่ที่ใส่หน้ากากอนามัย มีได้หลายสาเหตุ ซึ่งอาจเกิดจากการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย อากาศไม่ถ่ายเท จนเกิดการอับชื้นของเหงื่อบริเวณนั้น หรือคุณผู้หญิงบางท่านแต่งหน้า จะสังเกตพบว่ามีเครื่องสำอางหลุดติดอยู่ที่หน้ากาก มากบ้าง น้อยบ้าง ซึ่งเครื่องสำอางที่ติดอยู่ สามารถกระตุ้นการเกิดสิวได้ นอกจากนี้การใส่หน้ากากอนามัยเป็นเวลานานยังเพิ่มโอกาสการเสียดสีระหว่างหน้ากากอนามัยกับผิวหน้าของคุณได้ ทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณนั้น ผิวหน้าก็บอบบาง โอกาสการเกิดสิวก็มีได้มากขึ้น เมื่อทราบถึงสาเหตุของการเกิดสิวจากหน้ากากอนามัยกันแล้ว เรามาดูวิธีจัดการกับสิวที่เกิดขึ้น รวมถึงวิธีการป้องกันไม่ให้เกิดสิวจากหน้ากากอนามัยกันดีกว่า ควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยเป็นประจำทุกครั้งที่ใช้ เนื่องจากสิ่งสกปรก จะฝังแน่นอยู่ในหน้ากากอนามัย เป็นสาเหตุให้เกิดสิวได้ ลดการแต่งหน้า หรือแต่งหน้าให้น้อยที่สุด เพื่อลดการอุดตันของสิ่งสกปรก หากอยู่คนเดียว หรือ ไม่ได้อยู่ในที่สาธารณะควรถอดหน้ากากอนามัยออกบ้าง เพื่อปล่อยให้ผิวได้หายใจ ไม่อับชื้น หลีกเลี่ยงการจับหน้ากากอนามัยบ่อยๆ เพราะเราไม่ทราบว่ามือของเรามีสิ่งสกปรก หรือมีเชื้อแบคทีเรีย ไวรัสอยู่หรือไม่ การจับหน้ากากอนามัยบ่อยๆจะเพิ่มโอกาสที่หน้าเราจะสัมผัสสิ่งสกปรกได้มากขึ้นนั่นเอง เมื่อเกิดสิวขึ้นแล้ว เราควร เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสิวให้เหมาะกับผิวของเรา หรือถ้าไม่แน่ใจควรเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลสิวที่สามารถดูแลสิวได้อย่างครอบคลุมสิวทุกประเภท สำคัญตั้งแต่การล้างหน้าให้สะอาด อาจเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Acne Buster ที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 8 ชนิดที่ช่วยฆ่าเชื้อสิวและลดการอักเสบของสิวได้ เมื่อล้างหน้าสะอาดแล้ว ขั้นต่อไปก็คือควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แต้มสิวที่มีส่วนประกอบของ Acnacidol BG และ Salicylic acid ตัวยาที่ช่วยควบคุมความมันและลดการอุดตันของผิว ซึ่งมาเสริมประสิทธิภาพกันเป็นนวัตกรรม Acnacylic ที่ค่อยๆปลดปล่อยตัวยาออกมา ทำให้ออกฤทธิ์ได้นาน ไม่ต้องทาซ้ำบ่อยๆ และยังช่วยบรรเทาอาการอักเสบของสิวได้ สิวที่เกิดจากการใส่หน้ากากอนามัยในยุค New Normal แบบนี้สามารถดูแลและรักษาได้ไม่ยาก นอกจากนี้หากคุณเข้าใจและพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวจากการใส่หน้ากากอนามัยแล้ว ก็จะทำให้ผิวหน้าของคุณสวย หล่อ ใส ไร้สิวได้อีกด้วย
- ทำไมใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แล้วเป็นสิวได้ | PEURRi
ทำให้สิว...เป็นเรื่องสิวๆ ทำไมใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว แล้วเป็นสิวได้ เคยไหม... อุตส่าห์ซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าหรือผลิตภัณฑ์ดูแลสิวมาใช้แล้วก็ยังไม่วาย เจ้าสิวตัวดีก็ยังจะโผล่ขึ้นมากวนใจคุณอีก ความจริงแล้วเหตุการณ์เหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้หากคุณเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ แต่อีกนัยหนึ่งอาจเป็นเพราะหน้าที่ของส่วนประกอบนั้นๆสามารถก่อให้เกิดสิวขึ้นมาได้ เรามาไขข้อข้องใจกับส่วนประกอบบางอย่างที่อาจทำให้เกิดสิวขึ้นได้กันดีกว่า หากจำแนกตามประเภทของผิวที่อาจมีความสัมพันธ์กับส่วนประกอบที่ทำให้เกิดสิว เราสามารถแบ่งได้ดังนี้ ผิวมัน จริงๆแล้วพื้นฐานของคนที่มีผิวมันนั้นมีโอกาสที่ทำให้เกิดสิวได้ง่ายกว่าคนที่มีผิวธรรมดาอยู่แล้ว เนื่องจากจะมีการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้ามากกว่าผิวธรรมดา ทำให้เกิดการอุดตันได้ง่ายกว่า จึงควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Silicone เช่น Dimethicone, Cyclopentasiloxane เป็นต้น สารที่เป็น Silicone ส่วนมากเมื่อทาไปที่ผิวจะให้ความรู้สึกลื่น เหมือนมีอะไรเคลือบผิว และเนื่องจากมันทนต่อน้ำ จึงไม่สามารถล้างออกไปได้ง่ายๆ ทำให้เกิดการอุดตันได้ง่ายขึ้น จึงทำให้เป็นสิวได้ง่าย ผิวแห้ง เป็นผิวที่ขาดความมัน และมีความชุ่มชื้นใต้ผิวหนังน้อยกว่าผิวทั่วไป ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบที่ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวให้เร็วขึ้น อย่าง AHA, BHA หรือ Benzoyl peroxide ที่ลดการสร้างน้ำมันของต่อมไขมัน ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวอ่อนแอลง ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงหากใช้แล้วเป็นสิวมากขึ้น ผิวแแพ้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารกันเสีย (Preservative) เช่น Methyl-paraben, Propyl-paraben หรือ Formaldehyde รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มี Alcohol เป็นส่วนประกอบ เพราะอาจทำให้ผิวแพ้ง่ายมากขึ้น ส่งผลให้เป็นสิวได้มากขึ้นนั่นเอง แต่หลายๆครั้งการ ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าหรือผลิตภัณฑ์ดูแลสิว อาจทำให้เกิดสิวขึ้นอยู่แล้วในช่วงแรกของการใช้ผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นอาการปกติที่พบได้ เนื่องมาจากผลิตภัณฑ์นั้นอาจมีส่วนประกอบที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้สิ่งสกปรก หรือสิ่งอุดตันที่อยู่ภายในถูกผลัดขึ้นมาชั้นบนของผิวได้เร็วมากขึ้น จึงทำให้เป็นสิว หรือสิวเห่อมากขึ้น ดังนั้นหากคุณมีสิวขึ้นในช่วงแรกจึงไม่ต้องตกใจ ตื่นตระหนกไป แต่ควรสังเกตการเปลี่ยนแปลงหลังการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าหรือผลิตภัณฑ์ดูแลสิว โดยเฉพาะหากใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆเป็นครั้งแรก ถ้าใช้ไปประมาณ 1-2 สัปดาห์สิวลดลงหรือมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อยๆ แสดงว่าคุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์นั้นๆต่อไปได้ ซึ่งระยะเวลาในการเกิดสิวเห่อ จนสิวดีขึ้นของแต่ละคนไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว สิ่งแวดล้อม การใช้ชีวิต นั่นหมายถึงขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลนั่นเอง แต่หากสิวที่เกิดขึ้นเป็นมากขึ้น หรือเป็นสิวอยู่เรื่อยๆไม่หายสักที ควรหยุดใช้ พร้อมทั้งปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมที่สุด สุดท้ายนี้ไม่ว่าคุณจะมีผิวธรรมดา หรือผิวประเภทใดก็ตาม ก็มีโอกาสที่คุณจะมีสิวเกิดขึ้นได้จากการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ อาจมีโอกาสเกิดสิวได้ง่ายกว่าปกติ ดังนั้นควรอ่านฉลากของผลิตภัณฑ์สักนิดว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้างที่ควรระมัดระวัง และสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงภายหลังการใช้ เพียงเท่านี้คุณจะสามารถใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าหรือผลิตภัณฑ์ดูแลสิวได้อย่างสบายใจ
- REVIEW | PEURRi
Blogger Review Real User Review
- HOME | PEURRi
Purity for Natural Beauty Inspire you to look beautiful in your own way PURITY FOR NATURAL BEAUTY ทางออกใหม่ของคนเป็นสิว การเปลี่ยนนิยามของคำว่า “สวย” ให้แตกต่างมากกว่าที่เคย เพียงแค่คุณมั่นใจ และเห็นคุณค่าในตัวเอง และนั่นคือ “ความสวยที่บริสุทธิ์” PEURRi คือผู้เข้าใจหัวใจของคนเป็นสิวอย่างแท้จริง ต้องการเข้ามาเปลี่ยนนิยามของคำว่า “สวย” ให้ผู้มีปัญหาสิวทุกคน ให้กล้าที่จะสวยในแบบที่ตัวเองเป็น ด้วยการสร้างความมั่นใจ คุณค่า ความสุข และความสนุกให้เกิดขึ้น PEURRi จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความสวยที่บริสุทธิ์และยั่งยืนนี้ ด้วยการมอบผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการคิดค้น พัฒนา และทดลอง เพื่อช่วยดูแลปัญหาสิว ผลิตขึ้นจากสารสกัดธรรมชาติ เพื่อมอบคืนความมั่นใจ และความสุขของผู้มีปัญหาสิวกลับคืนมา คนเป็นสิวไม่ต้องสนใจคำครหา เพราะคุณเองสวยได้ถ้าเห็นคุณค่า และความสุขในแบบของคุณ PEURRi มอบคืนความมั่นใจ ทางออกใหม่ของคนเป็นสิว สินค้าแนะนำ PEURRi ANTI ACNE GEL เพียวรี แอนติ แอคเน่ เจล เคลียร์สิว ลดการสะสมแบคทีเรีย ควบคุมความมันส่วนเกิน รายละเอียดเพิ่มเติม
- ทำความรู้จักสิวกันเถอะ | PEURRi
ทำให้สิว...เป็นเรื่องสิวๆ มาทำความรู้จักสิวกันเถอะ สิว... หากเกิดขึ้นบนใบหน้าหรือส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายของคุณแล้ว ย่อมไม่มีใครรู้สึกพึงพอใจอย่างแน่นอน หลายต่อหลายคนคิดว่า เราก็ดูแลรักษาความสะอาดดีแล้ว แต่ทำไมสิวยังตามมาสร้างความรำคาญใจได้อีก เรามาทำความรู้จักกับสิวให้ลึกขึ้นไปอีกกันดีกว่า สิว เกิดจากการอักเสบของรูขุมขนและต่อมไขมัน กระบวนการคือ ต่อมไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังนั้นผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป น้ำมันส่วนที่เกินไปอุดตันในรูขุมขนจึงเกิดสิวอุดตันขึ้น (Comedone) สาเหตุร่วมอีกอย่างหนึ่งคือ การผลัดเซลล์ผิวของชั้นผิวหนังไม่ดีพอ ซึ่งอาจเกิดจากแบคทีเรีย Propionibacterium (หรือที่รู้จักกันว่า P. Acne) หรือเกิดจากการมีไขมันมากเกินจึงขัดขวางการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เมื่อเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไม่ถูกผลัดออกจึงทำให้เกิดการอุดตันที่ต่อมไขมัน การอุดตันดังกล่าวนำไปสู่สิวหัวดำ และสิวหัวขาว หากสิวอุดตันนั้นมีการอักเสบหรือติดเชื้อ อาจกลายเป็นตุ่มแดงนูน หรือสิวหัวหนองได้ - สิวหัวดำ* (สิวหัวเปิด) จะเห็นเป็นจุดดำเล็กๆ ที่เห็นเป็นสีดำเนื่องจากการทำปฏิกิริยาของไขมันกับออกซิเจนในอากาศ - สิวหัวขาว* (สิวหัวปิด) สังเกตเห็นจุดสีขาวขุ่น กลมๆ นูนๆ ซึ่งเกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน - สิวชนิดหัวหนอง** คือสิวหัวขาวที่มีขนาดใหญ่ขึ้น มีการอักเสบรุนแรงมากขึ้น - สิวชนิดตุ่มนูนแดง** เป็นตุ่มนูนที่ผิวหนังแต่ไม่มีหนอง มีการอักเสบเกิดขึ้น มีขนาดเล็กและขนาดใหญ่ หากยังสับสนกันอยู่ ลองมาดูอีกครั้งว่าคุณเป็นสิวประเภทไหนกันดีกว่า เราสามารถจำแนกสิว ตามลักษณะของสิวได้ ดังนี้ * สิวไม่อักเสบ, ** สิวที่มีการอักเสบ จริงๆแล้วการเป็น สิวนั้นสามารถเป็นได้ตั้งแต่ในเด็กทารกขึ้นไป จนถึงวัยประมาณ 40 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยกระตุ้นในแต่ละบุคคล แต่สิวในเด็กทารกหรือในเด็กเล็กมักพบว่าไม่รุนแรง และสามารถหายเองได้โดยไม่ต้องใช้ยาหรือการรักษาใดๆ และมักไม่เหลือร่องรอยแผลเป็นไว้ ซึ่ง ส่วนมากพบในเด็กเพศชายมากกว่าเพศหญิง สิวที่เริ่มรุนแรงและสร้างความรำคาญใจ มักเกิดในช่วงวัยรุ่นมากกว่าวัยอื่นๆ ทั้งนี้สาเหตุส่วนใหญ่มาจากอิทธิพลการเปลี่ยนแปลงทางด้านฮอร์โมนของร่างกายเป็นสำคัญ แต่หากคุณยังไม่แน่ใจว่าเป็นสิวประเภทไหน ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถดูแลสิวได้ครอบคลุมสิวทุกประเภท ซึ่งคุณสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบสำคัญอย่าง Acnacidol BG ที่ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า ลดโอกาสการอุดตันของสิว รวมถึงลดการสะสมแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว Salicylic acid ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดตามปกติ ไม่อุดตันบนใบหน้า และ Tea tree oil ที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ P. Acne ที่เป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดสิวได้นั่นเอง
- รู้จักยาแต้มสิวดีหรือยัง | PEURRi
รู้จักยาแต้มสิว ดีหรือยัง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เป็นสิว หรือสนใจเรื่องสิว คุณน่าจะมีความสงสัยและอยากรู้ว่าจริงๆแล้วการรักษาสิวควรทำอย่างไร ต้องดูที่อะไรบ้าง เบื้องต้นแล้วหากคุณเป็นสิวเพียงเล็กน้อย เช่น นานๆขึ้นทีหนึ่ง ในแต่ละครั้งมีสิวขึ้นทีละไม่กี่เม็ด หรือสิวมักจะขึ้นตามช่วงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย ในบางคนอาจใช้เพียงแค่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสำหรับคนเป็นสิวง่าย สิวก็ดีขึ้นแล้ว แต่ในบางคนก็ยังคงต้องใช้ยาทาภายนอก หรือยาแต้มสิว เพื่อความรวดเร็วของการรักษาและผลลัพธ์ที่ดี ยิ่งถ้าเป็นสิวรุนแรง นอกจากใช้ยาแต้มสิวแล้ว อาจต้องพิจารณาใช้ยารับประทานเพื่อรักษาสิวด้วย ยารักษาสิวมีเป้าหมายคือ กำจัดสิวที่เกิดขึ้น ลดการผลิตน้ำมันจากต่อมไขมัน ช่วยให้การอักเสบของสิวหายเร็วขึ้น รักษาแผลเป็น รวมทั้งป้องกันการเกิดสิวที่อาจเกิดซ้ำขึ้นมาได้ ซึ่งการรักษาโดยใช้ยานั้นมีทั้งการใช้ยาทาหรือการรักษาเฉพาะที่ การรับประทานยารักษาสิว หรือการใช้ยาฉีด โดยเราจะมาทำความรู้จักกับการใช้ยาทาเฉพาะที่ หรือที่รู้จักกันว่ายาแต้มสิวนั่นเอง การออกฤทธิ์ของยาทาเพื่อรักษาสิวนั้น มีอยู่หลายประเภท สามารถแบ่งได้ดังนี้ 1. สารที่ออกฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย (Antimicrobial) เช่น Benzoyl Peroxide, Azelaic acid, Clindamycin, Erythromycin เป็นต้น หรือกลุ่มของสารสกัดจากธรรมชาติที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย เช่น tea tree oil, สารสกัดจากเปลือกมังคุด เป็นต้น 2. สารที่ออกฤทธิ์ละลายหัวสิว (Comedolytic) เช่น Adapalene, Tretinoic acid 3. สารที่ออกฤทธิ์ละลายขุย (Keratolytic) เช่น Salicylic acid, sulphur 4. สารที่ออกฤทธิ์ลดการอักเสบ (Anti-inflammatory) เช่น Benzoyl Peroxide, Adapalene 5. สารที่ออกฤทธิ์ลดการผลิตของน้ำมันส่วนเกิน (Decrease sebum production) เช่น Acnacidol BG จะเห็นว่าสารบางชนิดมีฤทธิ์ได้หลายอย่าง เช่น Benzoyl Peroxide มีทั้งฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย และในขณะเดียวกันยังช่วยลดการอักเสบของสิวได้ แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงคือ ทำให้ผิวแห้ง สร้างความระคายเคืองได้ง่ายโดยเฉพาะผิวที่บอบบาง และโดยปกติแล้วสารที่สามารถลดการผลิตน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าได้มักเป็นสารที่อยู่ในยารักษาสิวแบบรับประทาน เช่น Isotretinoin หรือยาคุมกำเนิด หากคุณต้องการลดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้า แต่ไม่อยากรับประทานยา เพราะการรับประทานยาอาจมีผลข้างเคียงได้มากกว่ายาแต้มสิว คุณอาจลองมองหา ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของ Acnacidol BG ที่อยู่ในยารักษาสิวแบบทาก็ได้ เพราะนอกจากจะได้ในเรื่องของการลดน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าแล้ว สารตัวนี้ยังช่วยลดการอุดตันของสิ่งสกปรก และช่วยลดโอกาสการสะสมของเชื้อแบคทีเรียอย่าง P. Acne ได้ อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Acnacyclic Technology มาเป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยทำให้สารสำคัญอย่าง Acnacidol BG และ Salicylic acid สามารถซึมผ่านผิวได้ดีและค่อยๆปลดปล่อยตัวยาออกมาทำให้ออกฤทธิ์ได้นานถึง 12 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามคุณควรรักษาสิวตามประเภทของสิวที่คุณเป็น เช่น สิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวหัวหนอง เป็นต้น การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้ถูกกับประเภทสิวนับเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งในการรักษาสิว แต่หากคุณไม่แน่ใจว่าคุณเป็นสิวประเภทไหน คุณควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่สามารถดูแลครอบคลุมสิวได้ทุกประเภทนั่นเอง
- ปัญหาสิวที่หลายๆคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ | PEURRi
ปัจจุบันปัญหาสิวเป็นสิ่งที่หลายๆคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในบางคนมีปัญหาเรื่องสิว (Acne) ตั้งแต่ยังวัยรุ่น แต่!!ในบางคนจะมีลักษณะผื่นคล้ายสิว เมื่อมีการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ skin care ที่ใช้หรือ แม้กระทั่งการเปลี่ยนที่อยู่อาศัยทำให้น้ำที่ใช้ในการล้างหน้าไม่เหมือนเดิม อาจทำให้เกิดตุ่มแดง ตุ่มหนอง ผื่นคันแสบ หรือลักษณะที่คล้ายสิว ขึ้นมาได้ เราก็มักจะเรียกอาการเหล่านี้ว่าแพ้ครีมหรือแพ้น้ำ จริงๆแล้วมันคือ กลุ่มอาการผิวหนังอักเสบจากสารสัมผัสภายนอกร่างกาย หรือ Contact dermatitis นั่นเอง ขอเรียกสั้นๆง่ายๆ ว่า “ผื่นสัมผัส” ซึ่งในทาง โรคผิวหนัง เ ราจะ แบ่งผื่นสัมผัสออกเป็น 2 ประเภท 1. ผื่นระคายสัมผัส (irritant contact dermatitis) พบบ่อยถึง80% ของผื่นแพ้สัมผัส เกิดจากการสัมผัสสารมีฤทธิ์ก่อระคายเคืองต่อผิวหนัง (active chemical) เช่น พวกสารผลัดเซลล์ผิว (Exfloiative agent ) AHA , BHA (Salicylic acid) ยารักษาสิว สารเคมีที่มีความเป็นกรดหรือด่างมากเกินไปเป็นต้น โดยสาเหตุอาจเกิดจากความเข้มข้นของตัวactive chemical ที่มาก หรือในบางคนมีผิวหนังเดิมที่เสียสมดุลอยู่แล้วพอเจอ active chemical ที่ถึงแม้ความเข้มข้นไม่มาก ก็อาจเกิดผื่นระคายสัมผัสขึ้นได้ และอีกแบบนึงคือการเจอ active chemical นั่นๆ อย่างต่อเนื่อง จนเกิดสารสะสม และเกิดเป็น ผื่นระคายสัมผัสได้ในที่สุด เราจะเรียกว่า Cumulative irritant contact dermatitis 2. ผื่นแพ้สัมผัส (allergic contact dermatitis) ผื่นผิวหนังอักเสบที่เกิดขึ้น”เฉพาะบุคคล”ส่วนน้อย บางคนเท่านั้นที่เกิดอากาแพ้(Sensitization) หลังการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ พบประมาณ20%ของผื่นสัมผัสทั้งหมด คือประเภทที่2นี้ จะเกี่ยวกับระบบ immune ของร่างกาย เป็นการแพ้จริงๆ ไม่ใช่แค่ระคายเคืองแบบประเภทที่1 มักจะมีอาการที่มาก และเป็นหลายระบบ เช่นหน้าบวม ตาบวม ปากบวมร่วมด้วย ไม่ได้เป็นแค่จุดที่สัมผัส และเป็นเฉพาะบุคคลไม่ใช่ ทุกคนที่สัมผัสสารนี้แล้วเป็น แล้วที่นี่!! เราจะแยกว่าเราเป็นแค่สิวปกติ หรือ เป็น สิวจากผื่นสัมผัส (contact dermatitis) ได้อย่างไร!! อย่างแรกคือ สิวหรือผื่นนั้นๆ เกิดขึ้นทันที หลังจากใจครีมตัวใหม่ หรือถ้าเป็นกรณี Cumulative irritant contact dermatitis คือค่อยๆ สะสม จะเป็นผื่นสิวภายใน 1-2 สัปดาห์!! และเมื่อเราหยุดใช้ครีมนั้นๆ อาการก็จะดีขึ้นอย่างชัดเจน ลักษณะผื่นที่จะพบได้!! - แสบร้อนตึง บริเวณที่ทาครีม - มีผื่นแดงเป็นปื้น - มีตุ่มใสหรือตุ่มแดงเล็กๆ (ซึ่งหน้าตาจะดูเป็นลักษณะเดียวกัน) - ตุ่มหนองเล็กๆทั่วๆ (ซึ่งหน้าตาจะดูเป็นลักษณะเดียวกัน) - ผิวแห้ง ลอกเป็น ขุ่ยๆ แต่ถ้าในกรณีเป็นผื่นแพ้สัมผัส (ประเภทที่2) มักจะมีอาการที่มาก เป็นหลายระบบ ตาบวมปากบวม หน้าบวม หรืออาจเป็น อันตรายถึงชีวิต เช่นไปเกี่ยวข้องกับระบบหายใจ มีหายใจมีเสียงwheez หอบหืด หลอดลมตีบตันได้ เป็นต้น โดยส่วนใหญ่แล้ว Cosmeceutical ที่มีพวก Active chemical มักจะมี ความเข้มข้นที่ไม่ได้สูงจนเกินไปจนทำให้เกิด ผื่นแพ้สัมผัส (contact dermatitis หรือที่เราเรียกกันว่า แพ้ครีม) แต่ยกเว้นในกรณีที่ผิวของผู้ใช้ Cosmeceutical นั้นๆ มีความเสียสมดุลอยู่เดิมก็อาจจะเกิด ผื่นแพ้สัมผัสได้!! Active chemicals บางอย่าง เช่น พวก Exfloiative agent AHA= กรดผลไม้ต่างๆ citric acid ,malic acid,tarti c acid ,lactic acid ,glycolic acid BHA =salicylic acid ยารักษาสิว benzoyl peroxide, adapalene, tretinoin ,retinoic acid (อนุพันธ์วิตามิน เอ) เป็นต้น! กลุ่ม Active chemicals ที่กล่าวข้างในข้างต้นหากมีความเข้มข้นที่มาก บวกกับสภาพผิวผู้ใช้เสียสมดุล หรือสภาพผิวที่มีสิ่งอุดตันในผิวชั้นลึกอยู่เยอะ ก็มีโอกาสเกิดการดันสิวอุดตัน เกิดผื่นแห้งแดง เห่อขึ้นได้ในช่วง 3-4 สัปดาห์แรก โดยเฉพาะกลุ่ม ยารักษาสิว benzoyl peroxide, adapalene, tretinoin ,retinoic acid (อนุพันธ์วิตามิน เอ) จะมีโอกาสดันสิวได้มากกว่า พวก exfoliative agent ตัวอื่นๆ เนื่องจากตัวยาออกฤทธิ์ทำให้สิวอุดตันที่อยู่ในผิวชั้นลึกถูกขับขึ้นมาสู่ผิวชั้นตื้น จึงทำให้ปริมาณสิวดูมากขึ้น ลักษณะสิวแบบนี้ จะเป็นเหมือนสิวอุดตันดันขึ้นมา (comedone )ทั่วๆ จากผิวชั้นลึก อาจพบสิวอักเสบร่วมได้บ้างในบางคน และจะมี อาการระคายเคือง ผิวแห้ง แดงแสบ ลอกร่ วมด้วยได้ ดังนั้นในการจะเลือก cosmeceutical หรือ skin care ที่มีตัว active chemical ที่ช่วยในการ ผลัดเซลล์ผิว รักษาสิว ให้ปลอดภัยและได้ผลนั้น ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ มีความเข้มข้นของสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างเหมาะสม และมีตัวบำรุงเพื่อไม่ทำให้ผิวแห้งตึงจนเกินไป มีค่าพีเอชที่อยู่ในช่วงที่สมดุลกับผิว และผ่านการทดสอบความระคายเคืองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ เริ่มต้นแก้ปัญหาสิวง่ายๆจากการทำความสะอาดใบหน้าก่อนเลย อย่างเช่น PEURRi Acne Cleanser (ฝาแดง) เจลล้างหน้าควบคุมความมัน สูตรเหมาะสำหรับ ผิวมัน ผิวผสม คนมีสิว ที่มีนวัตกรรม Acna AB เอกสิทธิ์เฉพาะของเพียวรี ผสานการทำงาน salicylic acid และ acne busterสารสกัดจาก ธรรมชาติ คุมมัน ผลัดสิวออก ลดการอุดตัน ป้องกันสิวเห่อ มี vitamin b5 ช่วยไม่ให้ผิวแห้งตึง และยังผ่านการทดสอบการแพ้ระคายเคืองจากสถาบัน dermscan asia อีกด้วย ใช้ได้ทั้งสิวที่หน้าและสิวผิวกาย บีบเจลขนานเท่าเหรียญ 10 นวดวนลงบนผิวหน้าหรือผิวกายบริเวณที่เป็นสิวให้ครบ 1นาที ทำให้สารสกัดซึมลึกจัดการปัญหาสิว และควบคุมความมันยาวนาน รอ.หญิง พญ. ศีตกานต์ หรั่งรวมมิตร์ แพทย์ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ความงาม
- สิวหลุดลุ้นทอง | PEURRi
รอติดตามรายละเอียดแคมเปญได้ที่ peurrith
- ทำให้สิว...เป็นเรื่องสิวๆ | PEURRi
ทำให้สิว...เป็นเรื่องสิวๆ ห่างไกลสิว...ไม่ยาก ไม่ง่าย เชื่อว่าเรื่องสิวเป็นเรื่องใกล้ตัว ที่อยากทำให้ไกลตัว สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาเรื่องสิว หรือกำลังศึกษาให้คนใกล้ตัวของคุณอยู่ คุณมาถูกทางแล้วค่ะ ไม่ว่าคุณกำลังสนใจสิวประเภทไหน เรามาดูกันค่ะว่าทำอย่างไรจึงห่างไกลสิว ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวมีหลายอย่างมาก มีทั้งปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ และปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ซึ่งปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกายมักเกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่น โดยเฉพาะคุณผู้ชายจะมีฮอร์โมนแอนโดรเจนสูง ซึ่งไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันมีขนาดใหญ่ขึ้น และสร้างน้ำมันออกมามากขึ้น ทำให้เป็นสิวง่ายขึ้น หรือสำหรับคุณผู้หญิงนั้น ช่วงเวลาที่มีประจำเดือนหรือช่วงตั้งครรภ์ จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผิวมีการสร้างไขมันมากขึ้น โดยจะพบว่าในหลายๆคนช่วงใกล้จะมีประจำเดือนจะเริ่มมีสิวเกิดขึ้นนั่นเอง กรรมพันธุ์ จะสังเกตว่าถ้าคุณพ่อ คุณแม่เคยเป็นสิวในช่วงวัยรุ่น คุณลูกมักมีโอกาสที่จะเป็นสิวในช่วงวัยรุ่นได้เช่นเดียวกัน ส่วนปัจจัยที่สามารถควบคุมได้ นั่นหมายถึงเราสามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น ความเครียด โดยความเครียดจะเป็นตัวกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น ทำให้มีการผลิตน้ำมันมากขึ้นที่ผิวหนัง ซึ่งส่งผลทำให้คุณเป็นสิวได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าคุณจะเครียดจากงาน จากการอ่านหนังสือ หรือเรื่องราวต่างๆในชีวิตของคุณ พยายามหาทางผ่อนคลายกับสาเหตุเหล่านี้ แล้วคุณจะพบว่าเครียดน้อย สิวที่เป็นอยู่ก็หายเร็วขึ้น และไม่ทำให้เกิดสิวเพิ่มขึ้นอีกด้วย การใช้ยาบางชนิด เช่น การใช้ยาทาที่มีสเตียรอยด์ ในบางคนการใช้ยาประเภทนี้ติดต่อกันเป็นเวลานานก็มีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดสิวได้ ที่เรียกกันว่าสิวสเตียรอยด์ หรือบางคนไม่ต้องใช้ระยะเวลานานแค่ใช้ยาทาที่มีสเตียรอยด์ก็อาจทำให้เป็นสิวได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นคุณควรเลือกใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น การใช้เครื่องสำอางค์ คนที่มีแนวโน้มเป็นสิวได้ง่าย หากจำเป็นต้องใช้เครื่องสำอางค์ ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าไม่ทำให้เกิดสิวอุดตันหรือสิวอักเสบ (non-comedogenic หรือ non-acnegenic) และใช้สูตรที่ปราศจากน้ำมัน (oil-free) จะทำให้ไม่เพิ่มไขมันส่วนเกินบนผิวของคุณ อากาศ การไปอยู่ในอากาศที่ร้อนเป็นเวลานานๆ อาจทำให้สิวที่เป็นอยู่เห่อขึ้นมาได้ ดังนั้นหากเลี่ยงได้จึงควรหลีกเลี่ยง พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การล้างหน้า บางคนคิดว่าการล้างหน้าบ่อยจะทำให้หน้าไม่มัน ไม่ทำให้เป็นสิว แต่จริงๆแล้วคุณรู้หรือไม่ว่า คนเราไม่ควรล้างหน้ามากกว่าวันละ 2-3 ครั้ง เพราะจะทำให้ผิวแห้งเกินไป หรือทำให้ผิวขาดน้ำ จนทำให้ผิวผลิตน้ำมันขึ้นมามากขึ้น เพื่อหยุดและป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากผิว ซึ่งน้ำมันที่มากเกินไปเป็นผลทำให้เกิดสิวได้มากขึ้นนั่นเอง และผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้าไม่ควรเป็นด่างมากเกินไป เพราะจะทำร้าย skin barrier ให้อ่อนแอลง ทำให้เป็นสิวได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยง ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ผลิตภัณฑ์บางอย่างที่คุณใช้อยู่ อาจเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวได้โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นหากคุณมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย หรือมีความกังวลเกี่ยวกับการเป็นสิวในแต่ละครั้ง ลองเลือกส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติช่วยดูแลสิว อย่าง Acnacidol BG ที่ช่วยลดโอกาสการสะสมของเชื้อ P. Acne ที่ทำให้เกิดสิว รวมถึงช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้ หรืออาจเพิ่มส่วนผสม Salicylic acid ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวของคุณดูเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าสิวนั้นจะเกิดจากสิ่งที่คุณควบคุมได้หรือไม่ หากเจ้าสิ่งเหล่านั้นทำให้คุณเป็นสิวขึ้นมาแล้ว คุณควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมในการดูแลผิวและรักษาสิวของคุณ เพราะเชื่อว่าผิวหน้าที่ดี ย่อมเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวันได้มากขึ้นได้ บทความโดย เภสัชหญิงวรัมพา เหลืองเพชรงาม
- Real User Review | PEURRi
Real User Review 1/1
- สิวไม่ใช่เรื่องน่ากลัว | PEURRi
เป็นสิวไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ถ้าเราชัวร์วิธีการรักษาสิว “ซ้ำร้ายใน หน้าของคนเดียวกัน ก็อาจ มีสิวได้หลายชนิด เช่น สิวผด สิวอักเสบ สิวอุดตัน” “การเสียดสีที่เกิดขึ้นจาก มาส์กก็เหนี่ยวนำให้เกิดสิวอุดตันไปจนถึงสิวอักเสบ ติดเชื้อได้ง่ายค่ะ” ช่วงโควิดที่ผ่านมาทำให้ใครหลายๆคน เป็นสิวกันเป็นแถวเลยใช่มั้ยคะ ไม่ว่าจะมาจากการที่ต้องใส่มาส์กหรือหน้ากากอนามัยกันทั้งวัน รวมถึงอากาศที่อบอ้าวร้อนชื้นแบบนี้ ยิ่งทำให้เป็นสิวได้ง่ายกันไปใหญ่ ดังนั้นวันนี้ หมอดาว จะมาแนะนำพวกเราในเรื่องการดูแลรักษาสิวผิวหน้าขั้นพื้นฐานให้พวกเรารับทราบและนำไปปฏิบัติโดยทั่ว ไปเรียนรู้พร้อมๆกันเลยดีกว่าค่ะ สิว หลายคนเริ่มรู้จักกันดีแล้ว มันคือ ความผิดปกติของผิวหนังอย่างหนึ่งค่ะ มีอาการรุนแรงแตกต่างกันไป บางคนเป็นเพียงสิวอุดตัน คือมีการอุดตันของรูขุมขน บางคนก็มีการอักเสบ จนไปถึงขั้นติดเชื้อแทรกเข้ามาอีก ซ้ำร้ายในหน้าของคนเดียวกัน ก็อาจมีสิวได้หลายชนิด เช่น สิวผด สิวอักเสบ สิวอุดตัน (อาจจะยังไม่อักเสบ แล้วกลายเป็นอักเสบในอนาคตก็ได้ค่ะ!) สำหรับสาเหตุนั้น มาจากหลายสาเหตุค่ะ เช่น วัย ถ้าวัยรุ่นมีความมันของใบหน้ามาก มาจากฮอร์โมนในร่างกายก็ย่อมที่จะมีโอกาสเกิดสิวอุดตันมาก หรือเพศ เพศชายโอกาสเป็นสิวอักเสบมากกว่าเพศหญิง แต่การใช้ชีวิตก็มีผลไม่น้อย ยิ่งถ้าเป็นสาวๆวัยทำงานที่พ้นวัยรุ่นไปแล้วต้องแต่งหน้าพอใส่มาส์กทั้งวัน การเสียดสีที่เกิดขึ้นจากมาส์กก็เหนี่ยวนำให้เกิดสิวอุดตันไปจนถึงสิวอักเสบติดเชื้อได้ง่ายค่ะ คราวนี้ พอเป็นสิวแล้วจะทำอย่างไรดี ก็ต้องกลับมาที่ต้นเหตุค่ะ เช่น ถ้าวัยของคุณเป็นหนุ่มสาววัยทำงาน (เพราะเดี๋ยวนี้หนุ่มๆเขาก็ใช้ skin care ดูแลผิวหน้า บางท่านก็ทาแป้งฝุ่นบางๆเหมือนกันนะคะ) ก็ต้องมาดูที่เครื่องสำอางเมคอัพของคุณ ว่าหยุดใช้ก่อนได้ไหม เพื่อลดโอกาสเกิดสิวอันมาจากเครื่องสำอางเมคอัพ (เช่น แป้ง รองพื้น) แล้วใช้เครื่องสำอางที่ดูแลผิวเท่าที่จำเป็น ซึ่งจะมีพื้นฐานคือ หนึ่ง สำหรับทำความสะอาดผิว และ สอง สำหรับลดการอักเสบของสิว ค่ะ บางท่านบอกขอใช้ครีมกันแดด รวมไปถึง ครีมทาหน้าตอนกลางคืนได้ไหม คำตอบนั้นขึ้นกับแต่ละคนค่ะ ถ้าใช้แล้วไม่แพ้ระคายเคืองหรือทำให้ผิวมันเยิ้มจนเกินไป จนเหนี่ยวนำให้สิวเห่อ ก็ใช้ไปเถิดค่ะ แต่ต้องสังเกตดูด้วยว่าทำให้มีผลต่อสิวที่เป็นอย่างไรนะคะ กลับมาที่เครื่องสำอางสำหรับดูแลผิวเท่าที่จำเป็นในช่วงที่เป็นสิวกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ในการรักษาสิวนั้นก็มีหลากหลายแบบ บางแบรนด์ก็สามารถรักษาได้ทุกสิวโดยไปควบคุมการทำงานของต่อมไขมันตั้งแต่ต้นตอ ผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดผิวขณะที่เป็นสิวนั้นควรมีคุณสมบัติคือ มีความอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคือง เพราะคนที่เป็นสิวนั้นมีการอักเสบบนใบหน้าอยู่แล้ว ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย เช่น ล้างแล้วหน้าตึงเกินไป ทำให้ผิวขาดน้ำขาดความชุ่มชื้น ใช้แล้วหน้าลอก อันนั้นไม่เวิร์คนะคะ ความโชคดีคือ ในปัจจุบันมี นวัตกรรมที่คิดค้นเพื่อการรักษาสิวโดยเฉพาะ เช่น เป็นสารอนุพันธ์ของ Salicylic acid ที่มีชื่อทางการค้าอย่าง Acnacylic AB ที่ช่วยควบคุมความมัน ทำความสะอาดรูขุมขนที่อุดตัน รวมไปถึงยับยั้งการเจริญเติบโตของ P. Acne ช่วยลดการอักเสบของผิวหนังค่ะ บางผลิตภัณฑ์กิ๊บเก๋น่ารักมากค่ะ เขาจะใส่ตัวช่วยดีๆ อย่าง สารสกัดจากเมล็ดถั่วเหลือง สารสกัดจากพืช เช่น Jiou ช่วยควบคุมความมันจากฮอร์โมน Fermented Pear ที่มีจุลินทรีย์ธรรมชาติช่วยในการผลัดเซลล์ผิวและสร้างสมดุลให้ผิวค่ะ และอย่างที่บอกไปว่า ถ้าล้างหน้าแล้ว ยังต้องคงความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ด้วยซึ่งจะเป็นสารในกลุ่ม วิตามินบี5 และหากเกิดมีรอยแดงรอยดำจากสิว ถ้ามีส่วนผสมที่ช่วยเรืองนี้ อย่างสารสกัดจากพืชเช่น Dragon’s blood ก็ยิ่งดีค่ะ ในอีกส่วนคือ ผลิตภัณฑ์สำหรับลดการอักเสบของสิวนั้นก็เช่นเดียวกันค่ะ ถ้ามีสารกลุ่มที่ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า อย่าง Acnacidol BG หรือสารที่ช่วยลดการสะสมของเชื้อที่ก่อให้เกิดสิว อย่าง สารสกัดจาก Tea tree oil สารสกัดจาก Mangosteen รวมไปถึงมีสารที่ช่วยซ่อมแซมผิวหลังจากสิวเริ่มหาย อย่าง สารสกัดจากเปลือกหอยทาก ร่วมกับลดรอยดำรอยแดงอย่าง Dragon’s blood ที่กล่าวไป ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีกค่ะ การดูแลสิว บอกแล้วว่าไม่ใช่เรื่องน่ากลัว ถ้าเราชัวร์ในหลักการเรื่องการดูแลรักษาสิวนะคะ ขอให้หน้าใสไร้สิวกันถ้วนทั่วค่ะ TM พญ.ฉัตรดาว จางวางกร #คุณหมอพริตตี้ แพทย์วิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาเวชศาสตร์ครอบครัว